วันเสาร์ที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558


ข้าวเกรียบฟักทอง


            ส่วนผสม
1.           ฟักทองบด 200 กรัม
2.            แป้งมันสำปะหลัง 250 กรัม
3.           เกลือป่น 2 ช้อนชา
4.           กระเทียมโขลกละเอียด 2 ช้อนชา
5.           พริกไทยป่น 1 ช้อนชา
6.           น้ำตาลทราย1 ช้อนโต๊ะ
7.           น้ำเดือด

วิธีทำ
1.นึ่งฟักทองให้สุก ยีฟักทองให้ละเอียดเนื้อเนียน
2.ผสมแป้งมันสำปะหลัง ฟักทองบด กระเทียม พริกไทย เกลือ น้ำตาลทรายเข้าด้วยกัน นวด ส่วนผสมให้เข้ากัน ค่อยๆเติมน้ำเดือดนวดไปเรื่อยๆ จนเข้ากันและปั้นได้
3.นำส่วนผสมที่เข้ากันมาปั้นเป็นแท่งยาว เส้นผ่าศูนย์กลาง 1 นิ้ว
4.เรียงแท่งข้าวเกรียบลงในรังถึง ที่ทาน้ำมันพืชไว้ อย่าวางชิดกันมากเพื่อให้ไอน้ำขึ้นมาได้ นึ่งในน้ำเดือดไฟแกรง 40 นาที ทิ้งไว้ให้เย็นเก็บใส่ถุงพลาสติก พักไว้ 1 คืน
5.หั่นเป็นแว่นบางๆ ตากแดดจนแห้งสนิท เก็บใส่ภาชนะที่มีฝาปิด




ข้าวเกรียบงา







ส่วนผสม            
               1. ข้าวสารข้าวกล้อง         5ถ้วย
               2. งาดำคั่ว                         1ถ้วย
               3. น้ำตาลปี๊บ                      1/2ถ้วย
               4. มะพร้าวทึนทึก               1ลูก
               5. เกลือป่น                         1/2ช้อนโต๊ะ
               6. น้ำ                                 5ถ้วย
              


วิธีทำ
1. กะเทาะกะลามะพร้าวออก ฝานเนื้อมะพร้าวเป็นแผ่นบาง ๆ แล้วซอยเป็นเส้นเล็ก
2. ซาวข้าวสารข้าวกล้องทิ้งน้ำ 1 ครั้ง แช่ทิ้งไว้ 1 คืน นำไปโม่กับน้ำให้หมดน้ำ
และข้าวสาร ไม่ต้องทับน้ำ ตวงให้ได้ 5 ถ้วย
3. ผสมข้าวสารกล้องที่โม่กับน้ำตาล นวดให้เข้ากันจนน้ำตาลละลายหมดใส่
มะพร้าว งาดำ เกลือ คนให้เข้ากัน
4. นำไปละเลงให้เป็นแผ่นกลมในถาด ทิ้งไว้สักครู่ พอแห้งแซะออกจากถาด เรียงบนตะแกรง นำไปตากแดดจนแห้งสนิท เก็บใส่ขวดโหล ปิดฝาให้สนิท และหมั่นเอาออกตากแดด
5. เมื่อจะรับประทาน นำมาปิ้งไฟอ่อน ๆ จนสุกหอม


ข้าวเกรียบOTข้าวเกรียบมันเทศ-ฟักทอง-ใบเตย




                                                                                                                                                                       
ส่วนประกอบที่สำคัญ 

1. เนื้อมันเทศ จำนวน 0.5 กิโลกรัม
2. แป้งมันสำปะหลัง จำนวน 0.5 กิโลกรัม
3. กระเทียม จำนวน 1 ช้อนโต๊ะ
4. พริกไทยป่น จำนวน 1 ช้อนโต๊ะ
5. น้ำตาลทราย จำนวน 1 ช้อนโต๊ะ
6. เกลือ จำนวน 1 ช้อนชา


ขั้นตอนและวิธีการทำ

1.นำมันเทศไปต้มหรือนึ่งให้สุก นำไปปลอกเปลือกแล้วบดให้ละเอียด พักไว้ในภาชนะแยกไว้ต่างหาก
2.ผสมวัตถุดิบทั้งหมด (แป้งมัน,กระเทียม,พริกไทยป่น,น้ำตาทราย,เกลือ) ลงไปนวดคลุกเคล้ากับเนื้อมันเทศที่บดละเอียดแล้วจนกลายเป็นเนื้อเดียวกัน ถ้าหนืดเกินไปให้หยดน้ำเปล่าลงไปผสมบ้างเล็กน้อย แต่อย่าให้เละ และส่วนผสมไม่ติดมือ เป็นอันใช้ได้
3.นำแป้งที่ได้ไปปั้นให้เป็นก้อนกลมยาว ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 1 นิ้ว แล้วนำไปนึ่งจนแป้งสุก ใช้เวลาประมาณ 30 นาที
4.นำแป้งที่นึ่งสุกแล้วไปผึ่งลมให้เย็น แล้วแช่ในตู้เย็น 1 คืน ให้แป้งจับตัวแข็งเป็นก้อน
5.นำก้อนแป้งที่ได้มาหั่นเฉียงตามแนวขวางเป็นแผ่นบางๆ ขนาดตามความเหมาะสมแล้วนำไปตากแดดให้แห้ง เก็บไว้ในที่แห้งหรือบรรจุภัณฑ์ที่ปิดสนิทก่อนนำไปทอดรับประทาน


ข้าวเกรียบสมุนไพร

ส่วนผสม
1. กุ้ง (หรือ ปลา ฟักทอง ปลาหมึก เห็ด ฯลฯ อะไรก็ได้) 1/2 กิโล
2. แป้งมัน 2 1/2 กิโล
3. แป้งสาลี 2 ช้อนโต๊ะ
4. เกลือป่น 2 ช้อนโต๊ะ
5. กระเทียม (เอาเปลือกออก) 1 1/2 ช้อนโต๊ะ
6. พริกไทย 2 ช้อนโต๊ะ
7.  น้ำ
 

วิธีทำ
   ทำความสะอาดกุ้ง เอาเนื้อกุ้งไปโขลกหรือปั่นให้ละเอียด เติมเกลือ เติมน้ำ พริกไทย กระเทียม(ที่ปั่นหรือโขลกแล้ว) แล้วปั่นอีกครั้งจนละเอียดและเข้ากันดี
นำส่วนผสมที่ได้จากการปั่น ไปเทคลุกเคล้ากับแป้งมัน และแป้งสาลี แล้วนวดให้เข้ากันประมาณ 30-40 นาที
จากนั้นเราก็ ปั้นให้เป็นแท่งยาว สัก 5-6 แท่ง
แล้วนำไปใส่ลังถึง นึ่งประมาณ 1 ชั่วโมง (ดูให้มันสุก)
เมื่อสุกแล้ว เราก็ยกลงมาทิ้งไว้ให้เย็น จากนั้นเราก็หั่นเป็นชิ้นบางๆ แล้วนำไปตากแดดให้แห้ง พอแห้งแล้วเราก็นำมาทอดขายได้เลย






วันพุธที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

ข้าวเกรียบกุ้ง


ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ ข้าวเกรียบกุ้ง

ส่วนผสม
กุ้งสด 1/2 ครึ่งกิโลฯ
แป้งมัน 1/2 ครึ่งกิโลฯ
แป้งข้าวเจ้า 1 ถ้วย
กระเทียม 15 กลีบ
พริกไทย 1 ช้อนโต๊ะ
เกลือป่น 1/2 หนึ่งช้อนโต๊ะครึ่ง
น้ำมันพืช (สำหรับทอด)

 วิธีทำข้าวเกรียบกุ้ง
1. นำกุ้งไปล้างน้ำ ปอกเปลือก ผ่าหลังชักไส้ดำออก แล้วใส่ตะแกรงผึ่งไว้ให้สะเด็ดน้ำ
2. กระเทียม พริกไทย ใส่ครกลงโขลกให้ละเอียด จากนั้นนำกุ้งใส่แล้วโขลกต่อไปจนเหนียว เติมเกลือป่านลงไปพอเค็ม แล้วโขลกต่อสักครู่ ตักขึ้นพักไว้
3. นำแป้งมัน (หรือแป้งสิงคโปร์) และ แป้งข้าวเจ้าผสมรวมกัน ใส่แร่งกรองให้หมดผง นำแป้งใส่ลงในชามกุ้งที่โขลกไว้ทีล่ะน้อย เติมน้ำลงไปนวดจนแป้งเหนียว และทำขั้นตอนนี้ต่อจนกว่าแป้งจะหมด
4. เมื่อได้แป้งครบแล้ว ให้ลองปั้นเป็นก้อนเล็กๆ ลวกในน้ำร้อนให้สุกแล้วชิมรสดู ถ้ายังอ่อนเค็ม ให้เติมเกลือแล้วนวดใหม่จนได้รสที่ต้องการ
5. ปั้นแป้งเป็นท่อนกลมๆ คลึงออกให้เป็นแท่งยาวๆ เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 1 นิ้ว (แต่ไม่ต้องยาวมากนัก เพราะจะใส่รังถึงนึ่งไม่สะดวก)
6. จัดเรียงท่อนแป้งใส่รังถึง แล้วยกขึ้นตั้งไฟนึ่ง ประมาณ 1 ชั่วโมง เมื่อสุกดีแล้ว หยิบขึ้นแผ่ทิ้งไว้ 1 คืน จากนั้นหั่นให้เป็นแว่นบางๆ และนำไปตากแดดให้แห้ง อีก 1 วัน
7. เวลารับประทาน ใส่น้ำมันตั้งไฟ นำลงทอดจนเป็นสีเหลืองทอง ยกขึ้นให้สะเด็ดน้ำมัน รับประทานคู่กับน้ำพริกเผา







ข้าวเกรียบปลาสด

Picture

 ข้าวเกรียบปลาสด หรือ กะโป๊ะ ทำจากปลาทุกชนิดที่ใช้ทำเป็นลูกชิ้นปลานำมาทำข้าวเกรียบปลาได้ ซึ่งมีวิธีการผลิตใช้เทคนิคและวิธีการด้วยภูมิปัญญาชาวบ้านและเป็นการถนอมอาหารสามารถเก็บไว้รับประทานได้นาน ข้าวเกรียบปลาสดนิยมนำมารับประทานเป็นอาหารว่างหรือกับแกล้ม แต่ผู้รับประทานมักเข้าใจผิดว่าข้าวเกรียบปลาคงจะมีกลิ่นคาวหรืออร่อยไม่เท่าข้าวเกรียบกุ้ง ชาวบ้านจึงได้พัฒนารสชาติให้ดียิ่งขึ้น

ส่วนผสม 
1.แป้งมัน 1 กิโลกรัม
2.เนื้อปลา 6 ขีด
3.เกลือป่น 2 ช้อนโต๊ะ
4.พริกไทยป่น 3 ช้อนโต๊ะ
5.น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ
6.กระเทียมโขลกละเอียด 3 ช้อนโต๊ะ
7.น้ำเดือด 1 ถ้วยตวง8.น้ำ ½ ถ้วยตวง

วิธีทำ  
1. ชำแหละปลาเอาแต่เนื้อ นำไปลวกน้ำร้อนพอสุกๆ ดิบๆ แล้วนำมาสับให้ละเอียดถ้าเป็นปลาที่มีกลิ่นคาวมาก ให้ล้างน้ำเกลือ 4% (น้ำ 1 ลิตร เกลือ 2 ช้อนโต๊ะ) ก่อนที่จะนำไปสับให้ละเอียด
2. นำแป้งมัน เกลือป่น พริกไทยป่น น้ำตาลทรายมาผสมให้เข้ากันดี
3. นำแป้งที่ผสมแล้ว 1 ถ้วยตวง นวดกับน้ำเดือดก่อนเพื่อเป็นเชื้อ แล้วจึงค่อยเติมเนื้อปลา กระเทียมโขลกละเอียด และแป้ง นวดจนเหนียวเป็นเนื้อเดียวกันจนกระทั่งหมดส่วนผสม นานประมาณ 20 นาที
4. นำแป้งและปลาที่ผสมเครื่องเทศเรียบร้อยแล้วมาปั้นเป็นแท่งกลมยาว แล้วใส่ภาชนะที่กรุด้วยใบตอง นึ่งประมาณ 1 – 1 ½ ชั่วโมง แล้วแต่ขนาดของท่อนข้าวเกรียบ
5. เมื่อนึ่งเสร็จแล้ว ตั้งทิ้งไว้ค้างคืนเพื่อให้ผิวนอกแข็ง สะดวกในการหั่น
6. หั่นข้าวเกรียบที่นึ่งแล้วเป็นชิ้นบาง ๆ ด้วยมีด แล้วตากบนแผงตากข้าวเกรียบประมาณ 1-2 แดด เมื่อแห้งสนิทดีแล้ว ก็พร้อมบรรจุถุงขาย